Top latest Five ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า Urban news
Top latest Five ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า Urban news
Blog Article
การผ่าฟันคุดไม่สามารถลดขนาดของกรามหรือกระดูกขากรรไกรลงได้เลย เพราะการผ่าฟันคุดเป็นแค่การนำฟันซึ่งไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติออกจากช่องปากเท่านั้น
งดออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เพราะเลือดสูบฉีดเยอะอาจทำให้แผลเปิด
หลีกเลี่ยงการบ้วนปากมากเกินไป ในช่วงแรกๆ หลังถอนฟันคุดอาจมีเลือดซึมออกมาจากแผลบ้าง ทำให้หลายคนพยายามบ้วนปาก ซึ่งอาจทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกจากแผลได้
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนฟันคุด
ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าผ่าหรือไม่ผ่า ควรรู้ก่อนว่าฟันคุดเป็นแบบไหน ฟันคุดของเราขึ้นในลักษณะใด เป็นฟันคุดที่ขึ้นยังไม่เต็มที่ ขึ้นเต็มที่แล้ว หรือขึ้นแบบเฉียงๆ ซึ่งหากเป็นฟันกรามซี่ในสุดที่ขึ้นได้ไม่เต็มที่หรือขึ้นได้บางส่วนต้องทำการผ่าออกเพื่อป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เพื่อลดการเกิดฟันผุ : ฟันคุดทำให้เกิดการดันกับฟันซี่อื่นจนเป็นซอกที่เข้าถึงยากและทำให้ซอกฟันซ้อน เก หรือแน่นกว่าปกติ กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดง่ายขึ้น กลายเป็นที่มาของฟันผุในที่สุด
เพื่อป้องกันการละลายตัวของกระดูก – แรงดันจากฟันคุดที่อยู่ผิดตำแหน่งอาจทำให้กระดูกรอบรากฟันหรือรากฟันข้างเคียงถูกทำลายไป
วิธีทำความสะอาดหลังผ่าฟันคุด สามารถทำได้ดังนี้
ฟันคุดที่ไม่ต้องผ่าคือฟันคุดที่งอกมาในตำแหน่งที่ถูกต้องและมีพื้นที่เพียงพอในปากโดยไม่ทำให้ฟันอื่นๆ เบียดกัน หรือทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันคุดที่งอกขึ้นตรงๆ ไม่เอียงหรือโผล่ออกมาทั้งหมดโดยไม่มีอาการปวดหรืออักเสบ และไม่มีการติดเชื้อรอบๆ ฟันคุดนั้น หากฟันคุดของคุณมีลักษณะเช่นนี้ คุณอาจไม่จำเป็นต้องผ่าฟันคุด
ผ่าฟันคุดกินอะไรได้บ้าง กินอะไรหายเร็ว
หลังถอนฟันคุดแล้วต้องรักษาอะไรเพิ่มหรือไม่?
หากทันตแพทย์พบว่าคนไข้มีฟันคุด ก็จะให้ทำการถ่ายภาพเอกซเรย์ ซึ่งจะทำให้ทันตแพทย์เห็นภาพตำแหน่งดังกล่าวได้อย่างชัดเจนเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
ฟันคุดที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ – ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า ในบางกรณีที่ตำแหน่งของฟันคุดอยู่ใกล้อวัยวะสำคัญ เช่น เส้นประสาท หรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจแนะนำให้งดการผ่าตัดเพื่อความปลอดภัย
ความเร็วในการฟื้นตัวของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน เพราะเคสผ่าตัดแต่ละเคสมีความซับซ้อนไม่เหมือนกัน รวมถึงสุขภาพโดยทั่วไปของคนไข้แต่ละคนด้วย ทางที่ดีที่สุดคือค่อยๆ รับประทานอาหารที่แข็งขึ้นทีละนิด ให้พอเท่าที่ร่างกายรับไหวจะดีกว่า